วันนี้จะขอพูดถึงการสังเกตจิตปรุงแต่ง ให้ทุกคนเข้าใจ

เริ่มโดย admin, ธ.ค. 27, 2021, 06:27 AM

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

admin


วันนี้วันพระ วันที่ 27 ธันวาคม 2564
  วันนี้จะขอพูดถึงการสังเกตจิตปรุงแต่ง ให้ทุกคนพอได้เข้าใจ
ถ้าพูดถึงจิตที่ปรุงแต่ง กับ จิตที่ไม่ปรุงแต่ง หรือจิตสงบ หรือจิตเดิมแท้
จะต้องอธิบายกันยืดยาวมาก พูดกัน 4-5 วันก็ยังไม่มีใครเข้าใจ
เพราะผู้เรียนส่วนมากจะยังไม่บรรลุในการปฏิบัติเรื่องของจิตมานั้นเอง

ตัวอย่างเช่น...
วันนี้มีคนมาชมว่า พี่นี่มันสุดยอดจริงๆ เก่งจริงๆ
ทำยังไง ผมจะเก่งเหมือนพี่ได้
....พอหูได้ยินมาแบบนี้ เราจะรู้สึกว่าดี มีความปิติมีความยินดีในใจ
หัวใจพองโต มีความรู้สึกว่าเป็นสุขนั้นเอง....
" แต่ก่อนที่จะมีความรู้สึกว่าเป็นสุขนั้นเอง...
เราตามทันไหมเมื่อหูได้ยินมาเช่นนั้น
จิตมันคิดปรุงแต่งอะไรเสริมเข้าไปบ้าง
ถ้าตามทันจะเห็นว่าจิตมันมีการคิดเสริมปรุงแต่ง
เข้าไปมากมาย ก่อนที่จะเกิดอารมย์เป็นสุขขึ้นมาได้ "

อีกตัวอย่าง...
อยู่ดีๆ ก็มีคนมาพูดว่า..
มึงมันเลวจริงๆ น่าเตะปากจริงๆ
...เมื่อหูได้ยินแบบนี้ จะรู้สึกเคืองโกรธทันที โมโหทันที
" ก็เช่นเดิม ก่อนที่จะถึงเคืองโกรธทันที เราตามทันไหม
จิตมันคิดปรุงแต่งอะไรเสริมเข้าไปบ้าง
ผู้ที่ปฏิบัติจิตมาอย่างดีแล้ว จะนิ่งมาก
คำที่ได้ยินนั้น มันเป็นแค่คำที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้นเอง
เมื่อได้ยินมาจิตไม่คิดปรุ่งแต่งอะไร เดี๋ยวมันก็หายไป
แต่ถ้าเผลอให้จิตมันคิดปรุงแต่งไปแล้ว
ก็อาจตามทันไประงับความโกรธนั้นได้
แต่ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป ไม่ได้สังเกตอะไร
!..ส่วนทางไปด้วยกำลังมัดกำปั้นทันที..!
สิ่งที่จะตามมาก็คือการเสียทรัพย์สิน
หรือไม่ก็เสียชีวิตไปพร้อมๆ กันนั้นเอง "

การอธิบายนี้ เป็นการอธิบายแบบทางลัดย่อๆ
เพราะทุกวันนี้ผู้คนจะอ่านกันไม่เกิน 5 บรรทัด
แค่นี้ก็ถือว่ายาวไปแล้ว ไม่ได้ใช้คำศัพท์ใดๆ
เพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย
แต่ขอมีนิดหนึ่ง
อกุศลมูล 3 โลภะ-โทสะ-โมหะ รากเหง้าของความชั่ว
สิ่งที่ละได้ยากที่สุดของผู้ปฏิบัติคือ โทสะ
แต่ถ้าเราฝึกสังเกตการปรุงแต่งของจิตได้
จะสามารถระงับ โทสะ ได้ดีและรวดเร็ว


ขอเสริมอีกนิดการศึกษาไม่ว่าจะอ่านหนังสือกี่เล่ม
ฟังบรรยายไปแล้วกี่รอบ แต่ไม่มีการฝึกปฏิบัติ
จะไม่มีวันเข้าถึงธรรมชาตินั้นได้
.....................................................................

            สาธุ